ประวัติพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(พระแม่กวนอิม)ปางพันเนตรพันกร
อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม
ภาพประวัติศาสตร์ขณะช่างชาวจีนกำลังดำเนินการประกอบองค์พระโพธิสัตว์
ที่ตำบลพุสรรค์อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีปูชนียวัตถุสำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานเคารพนับถือกันทั่วโลกคือองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตร พันกร(ดวงตาพันดวง มีแขนและมือจำนวนพันหนึ่ง) องค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้ คุณวิไล จ่างตระกูล เป็นผู้บริจาคเงินสร้าง สร้างจากประเทศจีน สร้างทำอย่างประณีตบรรจง คือแกะสลักจากไม้หอมของประเทศจีน ใช้ไม้ชุงขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันไม้ใหญ่ขนาดนี้ในประเทศจีนหาไม่ได้อีกแล้ว
ช่างชาวจีนในซัวเถาใช้เวลาแกะสลักเป็นเวลาประมาณ 3 ปี ขนาดองค์สมมติ กว้าง 2.20 เมตร สูง 6.49เมตร หนัก 14 ตัน ฐานรองรับใช้หินแกรนิตหนัก 19 ตัน เมื่อแกะสลักเสร็จแล้ว ยังมิได้ประกอบเป็นองค์ ชาวจีนได้นำส่งทางทะเล จากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มาถึงประเทศไทยและอัญเชิญไปที่อุทยานศาสนา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 ต่อมาช่างชาวจีนจำนวน 9 คน เดินทางมาประกอบ องค์สมมติและนำขึ้นประดิษฐานบนแท่นรองรับ ในวันที่ 5-13 มกราคม พ.ศ. 2541 ใช้สลักไม้ยึดส่วนประกอบต่างๆ ขององค์สมมติมิได้ใช้สิ่งอื่นยึดเลย
หลังจากนั้นมีช่างชาวจีนอีกคนหนึ่งมาเขียนดวงพระเนตร จึงสร้างเสร็จเรียบร้อยผู้เรียบเรียงได้ศึกษาเรื่องราวขององค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตรพันกรมาได้ทราบรายละเอียดเพิ่มขึ้นเห็นสมควรจะนำเสนอท่านผู้อ่านดังต่อไปนี้
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพระแม่กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวโลกเคารพสักการะบูชามาช้านานแล้ว แม้ในยุคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (พระสมณโคดม) รุ่งเรืองอยู่ในชมพูทวีป ศาสนิกชนสมัยนั้นยังสร้างรูปเศารพและองค์สมมติพระอวโลกิเตศวรไว้บูชาและเรียกพระนามต่างๆ กัน เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระปัทมปาณีโพธิสัตว์ พระสิงหาสนโลเกศวร พระอโมฆบาศโลเกศวร พระโลกนาถ พระสหัสภูมิโลกนาถ และยังมีพระนามอื่นๆ มากมาย แท้ที่จริงคือ พระอวโลกิเตศวรพระโพธิสัตว์กวนอิม แต่สร้างในปางต่างกันจึงเรียกขานนาม ต่างกันไปแล้วแต่ท้องถิ่นนั้น ๆ
ในคัมภีร์กรุณาปุณฑริกสูตรกล่าวไว้ว่า พระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นพระธรรมกายโพธิสัตว์ สูงเท่าพระโพธิสัตว์ชั้นประชาสามัญอื่น ๆ เป็นผู้มีเอกชาติหรือยังคงเกี่ยวข้องกับการเกิดอีกเพียงชาติเดียวก็จักเป็นผู้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ หลังจากการเสด็จปรินิพพานของพระอมิตาพุทธเจ้า ทรงรับช่วงเป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระอมิตาพุทธเจ้า ณ แดนสุขาวดี พุทธเกษตร เทียบเท่ากับพระพุทธเจ้าทั้งหลายทั่วทศทิศ
องค์สมมติพระแม่กวนอิมพันเนตรพันกร (พันตาพันมือ) แกะสลักจากไม้หอมการบูร ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม ตำบลพุสวรรค์อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี คณะเจ้าภาพจากชมรมไทยจีนสามัคคีเพื่อสันติภาพสร้างเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ "72 พระพรรษามหาราชา" ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2542 ซึ่งเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งของพสกนิกรชาวไทย ด้วยบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำให้ผู้ดำเนินการจัดสร้างได้พบต้นไม้การบูรหอมขนาดใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ในป่าดงดิบประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้มอบหมายให้คณะช่างจีนในเมืองแต้จิ๋วรังสรรค์งานชิ้นเอกนี้ ด้วยการแกะสลักไม้หอมการบูรต้นสูงใหญ่เป็นองค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตรพันกร ที่สมบูรณ์ครบถ้วนและถูกต้อง โดยมีพระพักตร์ 4 ด้าน พร้อมพระกรครบ 1,000 พระกร พระปฏิมากรไม้หอมแกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้มีขนาดความสูง 6.49 เมตร สูงกว่าองค์ที่ประดิษฐาน ณ วัดหลงหัว มหานครเซี่ยงไฮ้ ส่วนสูงสุดเหนือพระเศียรทรงจีโบ (หมวกโบราณชนิดหนึ่ง) เบื้องบนสุดมีพระพุทธรูปพระอาทิพุทธเจ้าซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุดเป็นพระผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งในโลก แต่ละพระกรมีพระหัตถ์ ในแต่ละพระหัตถ์มีพระเนตรอยู่ตรงกลาง อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเอื้ออาทรที่จะโปรดสัตว์ผู้ตกอยู่ในห่วงทุกข์ด้วย
มีอันหาขอบเขตมิได้ตรงกลางพระนลาฏจำหลักวงกลม ซึ่งมีความหมายถึงดวงธรรมส่องทางนำสรรพสัตว์ สู่หนทางแห่งความพ้นทุกข์สำหรับพระหัตถ์ 1,000 พระหัตถ์นั้น บางพระหัตถ์ทรงถือศาสตราวุธ บางพระหัตถ์ทรงถือคัมภีร์ บางพระหัตถ์ทรงถือลูกประคำ บางพระหัตถ์ทรงถือดอกบัว บาง
พระหัตถ์ทรงถือแก้วจินดามณี บางพระหัตถ์ทรงถือพลองทองประดับหยก บางพระหัตถ์ทรงถือคนโทน้ำทิพย์ บางพระหัตถ์ทรงถือกิ่งหลิว บางพระหัตถ์ทรงประทานพร ล้วนแล้วแต่มีความหมายทั้งสิ้น ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะ บางส่วนที่สำคัญคือ
พระหัตถ์บนสุดทรงถือสุริยัน-จันทรา มีความหมายแทนปัญญาให้รู้เท่าอารมณ์ที่มีกุศล อกุศล รู้เท่าทัน ความพอใจ ไม่พอใจ รู้เท่าทันทุกข์ สุข เห็นแจ้งถึงเหตุ ปัจจัยในธรรมชาติของโลก ซึ่งประกอบด้วยของคู่กัน เช่นมีสว่างก็มืด มีดีก็มีชั่ว มีรวยก็มีจน มีหญิงก็มีชาย มีได้ก็ มีเสีย ฯลฯ
พระหัตถ์ระหว่างกลางพระวรกายทรงประนมกรมีความหมาย คือผู้รู้ที่แท้จริงย่อมมีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตนเคารพพุทธะและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เคารพสัจธรรมเคารพผู้อาวุโส เคารพฟ้าดิน เคารพความจริงในความดี เคารพในสิทธิเสรีภาพของปวงสรรพสัตว์ เคารพในสิ่งชอบธรรม และเพื่อขอขมาในสิ่งต่าง ๆ ที่เคยล่วงเกินต่อกันด้วยกาย วาจา ใจ เป็นการขออโหสิกรรมเพื่อหมดสิ้นเวรภัย
พระหัตถ์ถัดลงมาทรงโอบอุ้มโลกมีความหมายคือผู้รู้ย่อมมีความเมตตากรุณา โดยอุ้มชูสรรพสัตว์ช่วยให้พ้นทุกข์ ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยจิตเมตตากรุณาและมีอภัยทาน สังคมใดมีความกรุณา สังคมนั้นย่อมมีแต่ความสงบสุขและร่มเย็น
พระหัตถ์ถัดลงมาพระหัตถ์ขวาทรงถือลูกประคำและพระหัตถ์ซ้ายทรงถือเชือก
มีความหมายว่า ผู้รู้ย่อมไม่ประมาทต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ ยึดมั่นในศีลธรรมและเจริญสมาธิเพื่อให้เกิดปัญญา รู้เท่าทันตัณหา รู้เท่าทันความคิดกุศลอกุศล รู้เท่าทันอารมณ์พอใจไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา อันเป็นการพัฒนาจิตของตนเองทุกขณะจิต
พระหัตถ์ทรงถือคันศรและลูกศร มีความหมายคือให้มีชีวิตอยู่อย่างมีเป้าหมายปลายทาง มีความแน่วแน่ที่จะข้ามให้พ้นวัฏสงสารแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในทะเลพระหัตถ์ทรงถือคัมภีร์และสมุด มีความหมายว่าให้ทบทวนศึกษาพระธรรมอยู่เสมอ เพราะความจำความรู้ก็เป็นอนิจจัง เรียนมาแล้วก็ลืมได้ จึงต้องเพียรพยายามศึกษาทบทวนอยู่เสมอได้บรร
ส่วนพระหัตถ์อื่นๆ ขออธิบายอย่างย่นย่อ
คือเป็นพระหัตถ์ทรงถือดอกบัว หมายถึง ความบริสุทธิ์
พระหัตถ์ทรงถือคนโทน้ำทิพย์ หมายถึงน้ำทิพย์มนต์รักษาโรค และเพื่อประทานพรเสริมสิริมงคลแก่สัตวโลก
พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบ หมายถึง ปัญญาฆ่ากิเลส
พระทัตถ์ทรงถือพระแสงขวาน หมายถึงธรรมาวุธปราบมาร ขจัดความโลภ โกรธ หลง และมิจฉาทิฐิ
พระหัตถ์ทรงถือธรรมจักร หมายถึง ทรงรับภาระโกยสัตวโลกและสืบทอดพระพุทธศาสนา
พระหัตถ์ทรงถือเชือกบ่วงบาศ หมายถึง เครื่องช่วยฉุดสัตวโลกให้พ้นจากภยันตราย
ทุกพระหัตถ์ที่ทรงถือสิ่งต่างๆ นั้น ล้วนเป็นปริศนาธรรม เพื่อช่วยให้ผู้สักการะบูชาพระองค์มีจิตน้อมไปสู่ความศรัทธเลื่อมใสในพระธรรม ครองตนอยู่ในความดีงาม มีความประพฤติดีปฏิบัติชอบ มีความสำรวมสมาธิมั่นคง ประกอบด้วยปัญญา รู้ทันอารมณ์และสิ่งที่มากระทบอายตนะ เพื่อบรรลุธรรมความหลุดพ้นในที่สุดพระปฏิมากรไม้หอมการบูรแกะสลักองค์นี้มีความวิจิตรอลังการมาก แม้ในส่วนรายละเอียดของหมวกจีโบสร้อยพระศอ ทองพระกร ตลอดจนครอบผ้าทับหน้านางได้บรรจงตกแต่งอย่างประณีตอ่อนพลิ้วงดงามมาก อันเป็นผลงานช่างศิลปะจีนชั้นสูงที่หาชมได้ยากยิ่งพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาคุณและพระบุญญาธิการ จึงมีกิตติศัพท์เลื่องลือไปทั่วสารทิศ กล่าวกันว่าผู้ใดตกอยู่ในห้วงทุกข์ เพียงแต่ภาวนาพระนามกวนอิม ด้วยบุญฤทธิ์ของพระองค์จะช่วยให้ผู้นั้นพันทุกข์และประสบความสุขความเจริญได้
นะ โม กวน ซี อิม ผ่อสัก