ประวัติอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม

พระอาจารย์อริยวังโสภิกขุ ผู้เป็นศูนย์รวมใจในการบุกเบิกสร้างอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม

การกำเนิดอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้น เริ่มจากเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2538 คณะกรรมการชมรมสวดมนต์บูชาเจ้าแม่กวนอิม ได้ดำริจะจัดสร้างองค์สมมติพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) สี่ปาง เพื่อขอประทานพระบารมีของเจ้าแม่กวนอิม ช่วยแผ่บารมีให้ประเทศไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข สามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งขอให้สถานการณ์ของโลกที่มีความคุกรุ่นรุนแรงจากความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความรุนแรง จนอาจทำให้มนุษย์และสัตว์ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ได้บรรเทาเบาบางลงด้วยพระเมตตาและบุญญาภินิหารของพระแม่กวนอิม

เมื่อตกลงใจในการดำเนินการแล้วได้เดินทางเข้าไปพบพระอาจารย์อริยวังโสภิกขุ (ศาสตรจารย์เกียรติคุณ ดร.สุชาติ โกศลกิติวงศ์) ซึ่งขณะนั้นท่านบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ ณ ป่าลึกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอคำชี้แนะในการดำเนินการสร้าง ซึ่งพระอาจารย์อริยวังโส ได้เมตตาให้คำชี้แนะต่างๆแก่คณะกรรมการ ด้วยเห็นว่าคณะกรรมการมีเจตนารมย์ที่เป็นกุศลต้องการเห็นความสันติสุขในมนุษยโลก

องค์สมมติพระแม่กวนอิมสี่ปางพิทักษ์ไทย อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม

พระอาจารย์อริยวังโสให้คำชี้แนะว่าเมื่อจัดสร้างองค์สมมติเจ้าแม่กวนอิมทั้งสี่ปางเสร็จเรียบร้อยแล้วควรมีสถานที่อันสมควรที่จะประดิษฐานองค์สมมติทั้งสี่ปางนั้น คณะสานุศิษย์และคณะกรรมการได้ช่วยกันค้นหาสถานที่อันเหมาะสมที่จะดำเนินการ ด้วยคำสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระแม่กวนอิม ทำให้คณะกรรมการได้นิมิต ว่ามีสถานที่หนึ่ง ในตำบลพุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นสถานที่มงคลตรงตามพระประสงค์ของเจ้าแม่กวนอิมที่จะให้สถานที่นี้ได้ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอันจะมีคุณวิเศษต่อโลกอย่างมหาศาลในอนาคตข้างหน้า คณะกรรมการและคณะสานุศิษย์ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสละทรัพย์และแรงงานโดยมีพระอาจารย์อริยวังโสภิกขุเป็นหลักใจอันสำคัญ เพื่อจัดซื้อที่ดินเริ่มแรกจำนวน 30 ไร่ เพื่อจะได้ใช้เป็นที่ประดิษฐานองค์สมมติพระแม่ทั้งสี่ปาง

ต่อมาพระอาจารย์อริยวังโส ได้นิมิตจากเบื้องบนว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มงคลอันวิเศษควรจัดสร้างให้เป็นสถานที่เรียนรู้ทางศาสนา เพื่อให้มนุษย์ทั้งหลายได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนาต่างๆที่ตนเองนับถือ และมีความเข้าใจในศาสนาอื่นๆ ว่าทุกศาสนาล้วนมาจากแหล่งเดียวกันและเข้าสู่ดินแดนแห่งจิตวิญญาณเดียวกัน มนุษย์ไม่ควรขัดแย้งกันเรื่องศาสนาและควรหันมาพิจารณาสัจธรรมแห่งชีวิตให้ถ่องแท้

คณะกรรมการจึงได้จัดทำโครงการอุทยานศาสนาขึ้นตามเจตนารมณ์ของพระอาจารย์อริยวังโสภิกขุ และจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมจนมีเนื้อที่เพียงพอต่อโครงการ พระอาจารย์อริยวังโสภิกขุและคณะกรรมการจัดสร้างอุทยานศาสนาได้ใช้ความเพียรพยายามอย่างสูงสุด เพื่อดำเนินการจัดสร้างสถานที่สำคัญต่างๆภายในอุทยานศาสนา ให้บรรลุตามเป้าหมายและกรอบเวลาที่ได้วางไว้ ซึ่งในเวลาต่อมาสถานที่ดังกล่าวได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม” โดยมี พลเรือตรี สุระ ยุทธวงค์ เป็นประธานบริหารคนแรก

ในระหว่างที่โครงการอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่นั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์อันมหัศจรรย์ขึ้นในอีกที่หนึ่งที่ห่างไกลออกไป เมื่อคุณวิไล จ่างตระกูล ได้รับนิมิตจากเทพเจ้ามาบอกว่าโลกกำลังจะก้าวสู่กลียุค ข้าวยากหมากแพงและอดอยากไปทั่วทุกหัวระแหงประชาชนจะทุกข์ร้อนขาดที่พึ่งทางใจ เทพในนิมิตบอกว่าให้สร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมพันเนตรพันกร เพื่อเป็นสื่อกลางให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้ขอพรบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้น จึงได้ปรึกษาหารือกับสมาชิกชมรมมิตรภาพไทย-จีน ซึ่งต่อมาได้มีมติเห็นควรให้สร้างเจ้าแม่กวนอิมดังกล่าว จึงได้ติดต่อนายซิงดิงซี ผู้อำนวยการสำนักประติมากรรมมหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ให้เป็นหัวหน้าคณะช่างดำเนินการจัดสร้าง

ต่อมาคณะช่างได้พบไม้หอมการบูรอายุหลายร้อยปี สูงประมาณ 7 เมตร และได้นำมาแกะสลักด้วยฝีมือช่างจีนจนสำเร็จเป็นองค์พระ ทราบจากช่างผู้แกะสลักว่าเมื่อดำเนินการแกะสลักเสร็จเรียบร้อยแล้วองค์พระที่ได้จะมีความสูงกว่าองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือที่วัดหลงหัว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพันเนตรพันกรที่สร้างนี้จะเป็นองค์ที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน เป็นประติมากรรมแกะสลักจากไม้ทั้งต้น นับว่าเป็นมรดกล้ำค่าของโลก เป็นสิ่งมงคลที่ควรสักการบูชา

เมื่อช่างแกะสลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระแม่กวนอิมได้นิมิตให้ผู้จัดสร้างทราบว่าพระองค์ต้องการให้นำองค์พระโพธิสัตว์พันเนตรพันกรองค์นี้มาประดิษฐาน ณ อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม คณะผู้สร้างจึงได้ติดต่อกับคณะกรรมการอุทยานศาสนาฯ ได้แจ้งให้ทราบถึงเจตนารมณ์ที่จะให้องค์พระโพธิสัตว์มาประดิษฐาน ณ สถานที่แห่งนี้ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานศาสนารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ประชุมเตรียมการในการจัดสร้างวิหาร และประกอบองค์พระให้สำเร็จสมตามเจตนารมณ์ของเจ้าภาพ โดยคณะกรรมการอุทยานศาสนาฯ นำโดย พลเรือตรีสุระ ยุทธวงศ์ ประธานบริหารอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม ในขณะนั้น เป็นหัวหน้าคณะไปอัญเชิญองค์พระโพธิสัตว์แยกชิ้นขนส่งทางเรือข้ามทะเลจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทย ณ ท่าเรือคลองเตย ในวันที่ 23 พ.ย.2540 ต่อมาได้เชิญคณะช่างจากประเทศจีนมาประกอบองค์พระจนสำเร็จเรียบร้อย ในเดือนมกราคม 2541 และได้ดำเนินการจัดสร้างวิหารเพื่อป้องกันแดดลมฝนและเป็นที่สักการะของประชาชนที่มาเยี่ยมชมสถานนี่นี้ดังปัจจุบัน

นอกจากองค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมสี่ปางและองค์พระเม่กวนอิมพันเนตรพันกรแล้ว อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมยังจัดสร้างสถานที่สำคัญต่างๆ ไว้หลายจุดในแต่ละจุดได้ดำเนินการจัดสร้างและทำพิธีถูกต้องตามเทพบัญญัติ พรหมบัญญัติเรียกว่าถูกต้องตามพิธีการของโลกวิญญาณทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่มาสักการะขอพรจึงได้รับความสำเร็จและเป็นสิริมงคลเป็นที่อัศจรรย์

อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมปรารถนาจะให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวของศาสนาและสัจธรรมนำชีวิต ได้พักผ่อนจิตใจและเพิ่มพลังชีวิตด้วยการสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเงียบสงบ ร่มรื่นท่ามกลางบรรยากาศของเมืองศาสนาในหุบเขา ลำเนาไพร ขอเชิญทุกท่านมาเที่ยวชมไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นมหามงคลเป็นรางวัลของชีวิต ของท่านและครอบครัว สืบไป

เรียบเรียงโดย www.kuanyinpark.org